MIT เพิ่มธนาคารแห่งอังกฤษให้กับพันธมิตรการวิจัยสกุลเงินดิจิทัล CBDC ที่มีเสถียรภาพ

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าได้บรรลุข้อตกลงกับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์แห่งเทคโนโลยี Media Lab Digital Currency Initiative หรือ DCI ในโครงการวิจัยร่วม XNUMX เดือนเกี่ยวกับ Central Bank Digital Currency หรือ CBDC ธนาคาร กล่าวว่า ในแถลงการณ์ว่าโครงการใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยเท่านั้น และไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนา CBDC ที่ปฏิบัติการได้

ธนาคาร เริ่ม กำลังศึกษา CBDC ในปี 2020 โดยออกเอกสารอภิปรายในเดือนมีนาคมของปีนั้น ซึ่ง DCI การตอบสนอง กับการอภิปรายว่า CBDC สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในเอกสารได้อย่างไร ธนาคารและคลัง เป็นหัวหน้าคณะทำงานสำรวจ ในเรื่องเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เอกสารการสนทนาล่าสุดของธนาคารเกี่ยวกับ CBDC คือ การเผยแพร่ วันพฤหัสบดี

มีเสียงอื่นๆ เข้ามาร่วมอภิปรายด้วย เช่น กับคณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจแห่งสภาขุนนาง แสดงความรู้สึกผสมปนเปกัน เกี่ยวกับค่าเงินปอนด์ดิจิทัลที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี้ โดยชี้ให้เห็นถึง “ข้อดีของความเร็วในการชำระเงินและการชำระเงินข้ามพรมแดนที่ถูกกว่าและเร็วกว่า” พร้อมกับ “ความท้าทายเพื่อความมั่นคงทางการเงินและการปกป้องความเป็นส่วนตัว”

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษร่วมกับ Federal Reserve Bank of Boston และ Bank of Canada ในฐานะพันธมิตรด้านการวิจัย CBDC ที่ DCI ซึ่งเป็น ผู้ริเริ่ม ของโครงการ OpenCBDC ธนาคารแห่งแคนาดา ประกาศการวิจัยร่วมตลอดทั้งปี ความพยายามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ Boston Fed เริ่มการทำงานร่วมกัน กับ DCI ในปี 2020

อย่างไรก็ตาม MIT แทบจะไม่ได้อยู่เพียงลำพังในสาขานี้ ปัจจุบันมีประมาณ 60 ประเทศ การวิจัย CBDCs และมีโครงการนำร่องประมาณ 15 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงหยวนดิจิทัลของจีน ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และแอฟริกาใต้ เข้าร่วมธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ โครงการ Dunbar ของ Innovation Hub ไนจีเรียและบาฮามาสได้เปิดตัว CBDC แล้ว และจาเมกาคือ คาดว่าจะทำในไตรมาสนี้. eNaira ของไนจีเรีย พัฒนาโดยบริษัทฟินเทคเอกชน บิต