Prajogo Pangestu ของอินโดนีเซียได้รับการควบคุมเต็มรูปแบบของ Star Energy โดยซื้อหุ้น BCPG ของไทย 33% เป็นเงิน 440 ล้านดอลลาร์

Green Era บริษัทเอกชนในสิงคโปร์ที่ควบคุมโดย Prajogo Pangestu มหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซีย ได้ซื้อ Star Energy ร้อยละ 33.33 จาก BCPG ของประเทศไทยในราคา 440 ล้านดอลลาร์ ทำให้เขาเป็นเจ้าของโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพสามโครงการในอินโดนีเซียอย่างเต็มที่

โครงการของสตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ มีกำลังการผลิตรวม 875 เมกะวัตต์ Prajogo Pangestu ถือหุ้น 66.6% ของ Star Energy ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในจาการ์ตาผ่าน Barito Pacific ซึ่งเป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกโดย Green Era ซึ่งกล่าวว่าจะเปิดตัวกลุ่มสินทรัพย์หมุนเวียนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปิดตัวแผนการเติบโตและการลงทุนที่น่าตื่นเต้นของ Green Era” Nancy Pangestu กรรมการผู้จัดการ Green Era กล่าวใน คำสั่ง

โครงการสามโครงการของ Star Energy ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพวายัง วินดู โรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพสลัก และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพดาราจัต ล้วนอยู่ในจังหวัดชวาตะวันตก ในปี 2019 บริษัทตั้งเป้าที่จะลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1,200 เมกะวัตต์ในปี 2028

ตามที่สภาพลังงานแห่งชาติของอินโดนีเซียในเดือนกุมภาพันธ์ เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพความร้อนใต้พิภพสูงถึง 23.7 GW หรือ 40% ของกำลังการผลิตของโลก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน อินโดนีเซียใช้ศักยภาพเพียง 4.5% เท่านั้น

งานวิจัยที่ตีพิมพ์โดย EY ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2021 ระบุว่ามีโครงการพลังงานสะอาด 800 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการใน 316 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม EY ประเมินต้นทุนการลงทุนรวมสำหรับโครงการทั้งหมดไว้ที่ XNUMX พันล้านดอลลาร์

ในรายการ 2021 Richest ของอินโดนีเซียในปี 50 Prajogo Pangestu อยู่ในอันดับที่ 5 โดยมีมูลค่าสุทธิ 6.1 พันล้านดอลลาร์

Source: https://www.forbes.com/sites/yessarrosendar/2022/03/09/indonesias-prajogo-pangestu-gets-full-control-of-star-energy-buying-thailands-bcpg-33-stake-for-440-million/