ก.ล.ต. เล็งห้ามการให้กู้ยืมเงินในประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) ของประเทศไทยกำลังเตรียมที่จะใช้มาตรการที่รุนแรงภายหลังการล่มสลายของแพลตฟอร์มการให้ยืม crypto ในช่วงฤดูร้อนปี 2022 ก.ล.ต. ของไทยมีแผนที่จะห้ามไม่ให้แพลตฟอร์มคริปโตให้บริการหรือสนับสนุนบริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล 

ประกาศ, การตีพิมพ์ บนหน้าเว็บอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ก.ย. รายงานว่า ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในเรื่องนี้และจะ การจัดเก็บภาษี ความคิดเห็นจนถึงวันที่ 17 ต.ค.

โดยหลักการแล้ว หน่วยงานกำกับดูแลตั้งใจที่จะห้ามบริการ Stake และ Lending จาก "ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล" เพื่อปกป้องผู้ค้าและประชาชนทั่วไปจาก "ความเสี่ยงของผู้ให้บริการธุรกรรมดังกล่าว"

การแบนตามแผนรวมถึงประเด็นสำคัญหลายประการ จะห้ามผู้ดำเนินการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลโดยสัญญาว่าจะจ่ายคืนให้กับผู้ฝาก แม้ว่าผลตอบแทนจะไม่ได้มาจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ แต่มาจากงบประมาณส่งเสริมการขาย การโฆษณาบริการให้ยืมและรับฝากก็จะถูกห้ามเช่นกัน

แพลตฟอร์มการให้ยืม Crypto ประสบปัญหาร้ายแรงในช่วงซัมเมอร์นี้ ท่ามกลางการล่มสลายของตลาดทั่วไป บริษัทต่างๆ เช่น Celsius Network และ Voyager Digital h ระงับการถอนเงินของพวกเขา แล้วถูกฟ้องล้มละลาย

ที่เกี่ยวข้อง Zipmex เรียกประชุมกับหน่วยงานกำกับดูแลของไทยเพื่อหารือเกี่ยวกับ 'แผนฟื้นฟู'

ประเทศไทยเห็นตัวอย่างของตัวเองใน Zipmex — การแลกเปลี่ยน crypto ที่ ระงับการถอนในเดือนกรกฎาคมอ้างถึง "การรวมกันของสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม [ของมัน]" ในเดือนกันยายน ก.ล.ต การแลกเปลี่ยน crypto ที่ถูกกล่าวหา และอัคลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้ง ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นและส่งเรื่องให้ตำรวจ หน่วยงานกำกับดูแลอ้างว่า Zipmex ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋าเงินดิจิทัลและธุรกรรม crypto ตามพระราชบัญญัติสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศ

ก.ล.ต. จะใช้กฎการโฆษณาที่เข้มงวดสำหรับบริษัทคริปโตเคอเรนซีที่ดำเนินงานในประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม บริษัทต่างๆ จะต้องจำกัดการโฆษณาโดยตรงที่ส่งเสริมคริปโตเคอเรนซีให้เป็น “ช่องทางทางการ” เช่น เว็บไซต์ของตัวเอง และจะต้องมอบรายละเอียดของโฆษณาและการใช้จ่าย รวมถึงการใช้ผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียและบล็อกเกอร์และเงื่อนไขของพวกเขา ให้กับสำนักงาน ก.ล.ต.